เราขอความกรุณาท่านอ่านนโยบายความเป็นส่วนตัวต่อไปนี้โดยละเอียด
สำหรับเราแล้วความเป็นส่วนตัวของลูกค้าถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ ข้อมูลส่วนตัวและข้อมูลการติดต่อธุรกิจของท่านที่เกิดขึ้นบนแพลตฟอร์มจะถูกเก็บรวบรวมภายใต้นโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ ซึ่งจะได้อธิบายถึงวิธีการที่ฟินิกซ์บอกซ์ใช้จัดเก็บและปกป้องข้อมูลที่ท่านให้ในขณะที่เข้าชมและใช้แพลตฟอร์มและ/หรือบริการของเรา ทั้งนี้ หากท่านเพียงเยี่ยมชมแพลตฟอร์ม และเลือกชมสินค้า ท่านไม่จำเป็นต้องให้ข้อมูลส่วนตัวใดๆ ตัวตนและสถานะของท่านจะไม่เป็นที่เปิดเผยและ/หรือถูกระบุได้ เว้นแต่ท่านเข้าสู่ระบบโดยใช้ชื่อบัญชีและรหัสผ่านที่สร้างไว้กับฟินิกซ์บอกซ์
เว้นแต่จะกำหนดไว้เป็นอย่างอื่น นิยามและข้อกำหนดเกี่ยวกับการตีความที่กำหนดไว้ในข้อกำหนดและเงื่อนไขในการใช้บริการจะนำมาบังคับใช้กับนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ด้วย
- ข้อมูลที่เก็บ
เมื่อท่านสร้างบัญชีกับเรา เราจะทำการจัดเก็บข้อมูลเฉพาะที่จำเป็นและเกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของเรา เพื่อที่เราสามารถมอบประสบการณ์และบริการที่ดีที่สุดแก่ท่านได้ ซึ่งอาจรวมถึงข้อมูลต่างๆ เหล่านี้ของท่าน รวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะ ชื่อ, ที่อยู่, อีเมล, หมายเลขโทรศัพท์, บัญชีธนาคาร/บัตรเครดิต/บัตรเดบิต, ข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวกับคำสั่งซื้อ และข้อมูลที่เราเก็บรวบรวมในขณะที่ท่านเข้าถึงแพลตฟอร์มและใช้บริการของเรา รวมถึงข้อมูลอุปกรณ์, ที่ตั้ง และผู้ให้บริการเครือข่าย เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้:
(ก) เพื่อดำเนินการ หรือสนับสนุนการใช้บริการของท่าน
(ข) เพื่อดำเนินการตามคำสั่งซื้อ และการจ่ายเงินของท่านผ่านทางแพลตฟอร์ม
(ค) เพื่อดำเนินการจัดส่งสินค้าที่ท่านได้ซื้อผ่านทางแพลตฟอร์ม โดยเราอาจส่งต่อข้อมูลส่วนตัวของท่านแก่คู่ค้าด้านการขนส่งของเรา
(ง) เพื่อแจ้งให้ท่านทราบเกี่ยวการจัดส่งสินค้า
(จ) เพื่อเปรียบเทียบข้อมูลและตรวจสอบกับบุคคลภายนอกในการรับรองความถูกต้องของข้อมูล
(ฉ) เพื่อจัดการบัญชีที่ท่านมีกับเรา รวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะ การระบุตัวตน, การตรวจสอบและการจัดการเกี่ยวกับ การจ่ายเงินที่ท่านได้ทำขึ้นผ่านทางอินเตอร์เน็ตหรือออนไลน์, การตรวจสอบการดาวน์โหลดข้อมูลจากแพลตฟอร์ม, การวิเคราะห์สถิติและพฤติกรรมของท่านเพื่อพัฒนาและปรับแต่งรูปแบบ, ข้อมูล, และเนื้อหาของแพลตฟอร์มให้เหมาะสมกับท่าน
(ช)เพื่อส่งข่าวสารทางการตลาดและโปรโมชั่นต่างๆ เกี่ยวกับสินค้าหรือบริการที่น่าสนใจเป็นครั้งคราว โดยท่านสามารถยกเลิกการรับข้อมูลดังกล่าวได้ตลอดเวลา ผ่านระบบยกเลิกการรับข้อมูลที่อยู่ในข่าวสารทางการตลาดที่จัดส่งให้แก่ท่าน
เราจะสามารถจัดเก็บข้อมูลส่วนตัวของท่านเมื่อท่านส่งมอบข้อมูลให้เราด้วยความสมัครใจของท่านเท่านั้น หากท่านเลือกจะไม่ส่งข้อมูลส่วนตัวของท่านให้แก่เรา หรือเลือกที่จะเพิกถอนความยินยอมในการใช้ข้อมูลส่วนตัวของท่าน เราอาจไม่สามารถให้บริการของเราแก่ท่านได้ ท่านสามารถเข้าถึงและปรับเปลี่ยนข้อมูลส่วนตัวของท่านที่ท่านได้ส่งมอบให้เราได้ตลอดเวลา
หากท่านได้ส่งมอบข้อมูลของบุคคลที่สามให้แก่เรา เราจะถือว่าท่านได้รับความยินยอมหรือได้รับอนุญาตจากบุคคลที่สามผู้เกี่ยวข้องที่จะเปิดเผยและส่งมอบข้อมูลส่วนตัวนั้น ๆ แก่เรา
โดยการยอมรับข้อกำหนดและเงื่อนไขนี้ ท่านยอมรับและตกลงว่าข้อมูลทั้งหมดที่ท่านให้ไว้เป็นข้อมูลที่ถูกต้องและแท้จริงและจะได้รับการปรับปรุงอยู่เสมอ และท่านจะแจ้งให้เราทราบเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงใดๆ ซึ่งท่านสามารถทำได้โดยการเข้าถึงบัญชีฟินิกซ์บอกซ์
ข้อมูลเกี่ยวกับคำสั่งซื้อของท่านจะถูกเก็บไว้กับเรา แต่ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัยเราไม่สามารถเรียกค้นข้อมูลได้โดยตรงอย่างไรก็ตาม ท่านสามารถเข้าถึงคำสั่งซื้อ และข้อมูลเกี่ยวกับบัญชี/การตลาด/การส่งเสริมการขายอื่นๆได้โดยเข้าสู่ระบบบัญชีของท่านบนแพลตฟอร์ม
- การเปิดเผยข้อมูลการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Data Protection Notice)[1]
บริษัทที่มีรายชื่อปรากฏตามเอกสาร “รายชื่อกลุ่มบริษัทสำหรับการดำเนินการเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล” ซึ่งรวมเรียกว่า (“บริษัท”) รับทราบและตระหนักถึงความสำคัญของสิทธิในความเป็นส่วนตัว และสิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลทั้งหลาย อันเป็นสิทธิสำคัญซึ่งได้รับการรับรองและคุ้มครองตามกฎหมาย และเนื่องจากข้อมูลบางประการที่บริษัทจำเป็นต้องได้รับจากท่านเพื่อประโยชน์ในการให้บริการและประกอบธุรกิจของบริษัท มีลักษณะเป็นข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย บริษัทจึงมีความมุ่งมั่นที่จะสร้างมาตรฐานที่ดีในการปฏิบัติงานและการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และเพื่อให้การดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลเหล่านี้เป็นไปตามข้อกำหนดของพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 บริษัทจึงจัดทำประกาศฉบับนี้ขึ้น เพื่อให้ท่านได้รับทราบรายละเอียดเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว รวมทั้งความจำเป็นและวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลและสิทธิตามกฎหมายของท่าน โปรดอ่านโดยละเอียดและทำความเข้าใจเพื่อประโยชน์ในการใช้สิทธิของท่าน
ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัยประการใดเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลภายใต้ประกาศฉบับนี้ ท่านสามารถติดต่อบริษัทได้ตามช่องทางที่ท่านสะดวกในรายละเอียดด้านล่างนี้
บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างไรบ้าง?
ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน บริษัทจะทำการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยตรง จากการติดต่อสื่อสารกับท่านผ่านช่องทางต่างๆ เช่น ผ่านทางการกรอกข้อมูลของท่านลงในแบบฟอร์มคำขอ สัญญา จดหมาย หรือเอกสารอื่นใด หรือผ่านทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ เช่น การกรอกข้อมูลผ่านทางเว็บไซต์ คุกกี้ (Cookies) หรือแอพพลิเคชั่นของบริษัท หรือผ่านทางช่องทางอื่นและในบางกรณีบริษัทอาจได้รับข้อมูลของท่านผ่านจากแหล่งอื่น เช่น การแนะนำเกี่ยวกับตัวท่านจากเพื่อนหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องของท่าน หรือจากแหล่งข้อมูลสาธารณะใดๆ ที่มีการเปิดเผยโดยทั่วไป เป็นต้น
ทั้งนี้ ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนั้น บริษัทจะทำการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเท่าที่จำเป็นภายใต้วัตถุประสงค์อันชอบด้วยกฎหมาย และตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งท่านไว้ก่อนหรือในขณะที่เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเท่านั้น
บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลใดของท่านบ้าง?
ในการประกอบธุรกิจของบริษัท บริษัทจำเป็นต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อประโยชน์ในการดำเนินธุรกิจและให้บริการแก่ท่าน รายละเอียดปรากฏตาม “หนังสือแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล[1]”
การใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อการทำการตลาด
บริษัทอาจใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการที่อาจเป็นประโยชน์กับท่านและอาจมีการติดต่อท่านเป็นครั้งคราวเพื่อแจ้งผลิตภัณฑ์หรือบริการใหม่หรือที่มีอยู่ให้ท่านทราบ นอกจากนี้ บริษัทยังอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้บริษัทที่เกี่ยวข้องหรือบริษัทคู่ค้าทราบเพื่อให้บริษัทดังกล่าวสามารถแจ้งผลิตภัณฑ์หรือบริการให้ท่านทราบทางช่องทางการตลาดต่างๆ โดยการติดต่อทางอิเล็กทรอนิกส์ อีเมล โทรศัพท์ ข้อความ และรูปแบบการสื่อสารอื่นๆ ทั้งนี้ เฉพาะเท่าที่ท่านได้ให้ความยินยอมไว้เท่านั้น
หากท่านประสงค์จะเปลี่ยนแปลงวิธีการติดต่อใดๆ ที่ท่านได้แจ้งไว้แก่บริษัท หรือหากท่านไม่ประสงค์จะได้รับข้อมูลทางการตลาดใดๆ ข้างต้นอีกต่อไป ท่านสามารถแจ้งให้บริษัททราบได้ทุกเมื่อ โดยท่านสามารถแจ้งบริษัทเพื่อใช้สิทธิที่เกี่ยวข้องได้ตามรายละเอียดที่ระบุในหัวข้อ “การติดต่อบริษัท”
บริษัทเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีใดบ้าง?
บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ โดยไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้นต่อบุคคลภายนอกหรือสาธารณะ เว้นแต่เป็นการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งท่านไว้ รายละเอียดปรากฏตามหนังสือแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล[2] หรือเป็นกรณีที่บริษัทได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน หรือมีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายให้ต้องดำเนินการ
การส่งข้อมูลส่วนบุคคลไปต่างประเทศ
ในการประกอบธุรกิจของบริษัท บริษัทจะไม่มีการส่งหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังผู้รับข้อมูลที่อยู่ต่างประเทศ เว้นแต่เป็นการดำเนินการตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งท่านไว้ หรือเป็นกรณีที่บริษัทได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน หรือมีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายให้ต้องดำเนินการ
การรักษาความปลอดภัยและคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
ในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ปลอดภัย บริษัทได้นำมาตรการต่างๆ ซึ่งรวมถึง การจำกัดการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลเฉพาะแก่ผู้ที่มีหน้าที่และความรับผิดชอบเกี่ยวข้อง การสร้างความเข้าใจและฝึกอบรมลูกจ้างและบุคลากรของบริษัทให้ปฏิบัติตามมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม การกำหนดหน้าที่ให้ลูกจ้างและบุคลากรของบริษัท รวมถึงผู้ประมวลผลข้อมูลของบริษัทต้องปฏิบัติตามมาตรฐานเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม ซึ่งรวมถึงหน้าที่ในป้องกันการรั่วไหลของข้อมูล และหน้าที่ในการใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสมกับการประมวลผลข้อมูล
หากท่านมีเหตุอันเชื่อได้ว่าข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกละเมิด หรือหากท่านมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท ท่านสามารถติดต่อบริษัทได้ตามรายละเอียดที่ระบุในหัวข้อ “การติดต่อบริษัท”
สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิได้รับการคุ้มครองตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ดังต่อไปนี้
- สิทธิในการขอถอนความยินยอม
ในกรณีที่บริษัทมีการขอและได้รับความยินยอมจากท่านเพื่อเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านมีสิทธิในการถอนความยินยอมในการให้บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวได้ทุกเมื่อ โดยบริษัทจะพิจารณาคำขอของท่านเพื่อดำเนินการที่เหมาะสมต่อไป ภายใน 30 (สามสิบ) วัน นับแต่วันที่ได้รับคำขอดังกล่าว
- สิทธิในการขอเข้าถึงและรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทจัดเก็บไว้
ท่านมีสิทธิขอเข้าถึงและรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทได้จัดเก็บไว้ โดยบริษัทจะพิจารณาคำขอของท่านเพื่อดำเนินการที่เหมาะสมต่อไป ภายใน 30 (สามสิบ) วัน นับแต่วันที่ได้รับคำขอดังกล่าว อย่างไรก็ตาม บริษัทขอสงวนสิทธิในการปฏิเสธคำขอใช้สิทธิดังกล่าวของท่าน หากเป็นการปฏิเสธตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล และการเข้าถึงและ/หรือการขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลนั้นจะส่งผลกระทบที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น
- สิทธิในการขอให้เปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทได้รับโดยที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอม หรือได้รับจากแหล่งอื่น
ท่านมีสิทธิขอให้เปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทได้รับโดยที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอม ในกรณีที่บริษัทได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากแหล่งอื่นซึ่งไม่ใช่จากท่านโดยตรง หากบริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลดังกล่าวบริษัทจะดำเนินการแจ้งให้ท่านทราบภายใน 30 (สามสิบ) วันนับจากวันที่ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว เพื่อขอความยินยอมจากท่าน ทั้งนี้ เว้นแต่เป็นกรณีที่กฎหมายยกเว้นให้ไม่ต้องแจ้ง ซึ่งท่านมีสิทธิขอให้บริษัทเปิดเผยแหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้
- สิทธิในการขอรับ และขอให้บริษัทโอนย้าย หรือส่งต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ในกรณีที่บริษัทมีการปรับให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานได้โดยอุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ และสามารถส่งต่อได้โดยวิธีการอัตโนมัติ
ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตัวท่านจากบริษัทได้ ในกรณีที่บริษัทได้ทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติและสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติรวมทั้งมีสิทธิขอให้บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นเมื่อสามารถทำได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ และมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง เว้นแต่โดยสภาพทางเทคนิคไม่สามารถทำได้ โดยบริษัทจะพิจารณาคำขอของท่านเพื่อดำเนินการที่เหมาะสมต่อไป ภายใน 30 (สามสิบ) วัน นับแต่วันที่ได้รับคำขอดังกล่าว ทั้งนี้ บริษัทขอสงวนสิทธิในการปฏิเสธคำขอใช้สิทธิดังกล่าวของท่าน หากการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลเป็นการปฏิบัติหน้าที่เพื่อประโยชน์สาธารณะหรือเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายของบริษัท หรือการใช้สิทธิอาจละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลอื่น
- สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านมีสิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยบริษัท ตามกฎหมายและในกรณีต่อไปนี้
- การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลนั้นเป็นการเก็บรวบรวมโดยได้รับยกเว้นไม่ต้องขอความยินยอมเนื่องจากเป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทหรือนิติบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล เว้นแต่บริษัทจะพิสูจน์ได้ว่ามีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายที่สำคัญสำหรับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลยิ่งกว่า
- กรณีการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้นเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาดแบบตรง
เมื่อบริษัทได้รับแจ้งความประสงค์ในการใช้สิทธิดังกล่าวจากท่าน บริษัทจะทำการแยกข้อมูลของท่านออกจากข้อมูลอื่นๆ ทันที อย่างไรก็ตาม บริษัทขอสงวนสิทธิในการปฏิเสธคำขอใช้สิทธิดังกล่าวของท่าน ในกรณีที่บริษัทสามารถพิสูจน์ได้ว่า การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้รับยกเว้นไม่ต้องขอความยินยอมเนื่องจากเป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทนั้นมีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายที่สำคัญยิ่งกว่า หรือเป็นไปเพื่อการก่อตั้งสิทธิตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย โดยบริษัทจะพิจารณาคำขอของท่านเพื่อดำเนินการที่เหมาะสมต่อไป ภายใน 30 (สามสิบ) วัน นับแต่วันที่ได้รับคำขอดังกล่าว
- สิทธิในการขอให้บริษัทลบหรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลกลายเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถใช้ระบุตัวตนได้
ท่านสามารถแจ้งให้บริษัทลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และ/หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านกลายเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุถึงตัวตนของท่านได้ ในกรณีดังต่อไปนี้
- เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้ตามวัตถุประสงค์
- เมื่อท่านถอนความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้น และบริษัทไม่มีอำนาจตามกฎหมายที่จะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้น
- เมื่อท่านใช้สิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล และบริษัทไม่มีเหตุผลที่จะใช้ปฏิเสธคำขอได้ หรือ
- เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลนั้นถูกเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
โดยบริษัทจะพิจารณาคำขอของท่านเพื่อดำเนินการที่เหมาะสมต่อไป ภายใน 30 (สามสิบ) วัน นับแต่วันที่ได้รับคำขอดังกล่าว อย่างไรก็ตาม บริษัทขอสงวนสิทธิในการปฏิเสธคำขอใช้สิทธิดังกล่าวของท่าน หากบริษัทมีความจำเป็นและมีสิทธิตามกฎหมายที่จะปฏิเสธคำขอดังกล่าวได้
- สิทธิขอให้บริษัทระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
ท่านสามารถแจ้งให้บริษัทระงับการใช้ข้อมูลของท่านได้ทันที ในกรณีดังต่อไปนี้
- เมื่อบริษัทอยู่ในระหว่างการตรวจสอบความถูกต้อง ครบถ้วน หรือปรับปรุงข้อมูลส่วนบุคคลนั้นให้เป็นข้อมูลปัจจุบัน และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด ตามคำขอของท่าน
- เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอาจถูกลบ หรือทำลายได้ แต่ท่านแจ้งขอให้ระงับการใช้งานข้อมูลส่วนบุคคลนั้น แทนการลบ หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล
- เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลนั้นหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลนั้นแล้ว แต่ท่านมีความจำเป็นต้องขอให้เก็บรักษาไว้เพื่อใช้ในการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือ
- เมื่อบริษัทอยู่ในระหว่างการพิจารณาการใช้สิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
โดยบริษัทจะพิจารณาคำขอของท่านเพื่อดำเนินการที่เหมาะสมต่อไป ภายใน 30 (สามสิบ) วัน นับแต่วันที่ได้รับคำขอดังกล่าว อย่างไรก็ตาม บริษัทขอสงวนสิทธิในการปฏิเสธคำขอใช้สิทธิดังกล่าวของท่าน หากบริษัทมีความจำเป็นและมีสิทธิตามกฎหมายที่จะปฏิเสธคำขอดังกล่าวได้
- สิทธิในการขอให้บริษัทปรับปรุงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้องเป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
ในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ไว้กับบริษัท หรือที่บริษัทได้เก็บรวบรวมไว้ หากยังอยู่ภายในระยะเวลาจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลตาม “หนังสือแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล[3]” ท่านสามารถแจ้งให้บริษัทดำเนินการแก้ไขปรับปรุงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ทุกเมื่อ โดยบริษัทจะพิจารณาคำขอของท่านเพื่อดำเนินการที่เหมาะสมต่อไป ภายใน 30 (สามสิบ) วัน นับแต่วันที่ได้รับคำขอดังกล่าว
- สิทธิในการร้องเรียนในกรณีที่พบว่ามีการฝ่าฝืนข้อกำหนดตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
หากท่านพบว่ามีการดำเนินการใดๆ ฝ่าฝืนหรือไม่เป็นไปตามข้อกำหนดตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านสามารถแจ้งการดำเนินการที่ไม่ถูกต้องนั้นมายังบริษัท และ/หรือหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องได้ โดยบริษัทจะพิจารณาคำขอของท่านเพื่อดำเนินการที่เหมาะสมต่อไป ภายใน 30 (สามสิบ) วัน นับแต่วันที่ได้รับคำขอดังกล่าว
ในกรณีที่ท่านประสงค์จะใช้สิทธิใดๆ ดังปรากฏข้างต้น ท่านสามารถติดต่อบริษัทได้ ตามรายละเอียดที่ระบุในหัวข้อ “การติดต่อบริษัท”
การติดต่อบริษัท
ท่านสามารถติดต่อบริษัทได้ในช่องทางดังต่อไปนี้
หน่วยงานคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท
เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล: สิเวศ โรจนสุนทร (ดร.)
ช่องทางการติดต่อ: https://www.assetworldcorp-th.com/en/home
[email protected]
ที่อยู่: บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) ชั้น 54 อาคารเอ็มไพร์ ทาวเวอร์ ถนนสาทรใต้ แขวงยานนาวา เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120
การใช้คุกกี้ (Cookies) เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
คุกกี้คือไฟล์รูปแบบหนึ่งที่ประกอบไปด้วยข้อความอักษร (Text) คุกกี้จะถูกสร้างขึ้นเมื่อผู้ใช้งานเข้าถึงเว็บไซต์ (Website) ที่เซิร์ฟเวอร์ (Server) มีการสร้างคุกกี้ไว้ โดยคุกกี้จะถูกบันทึกลงบนบราวเซอร์ (Browser) ของท่านเมื่อท่านแวะเข้าชมเว็บไซต์นั้นๆ เนื้อหาในคุกกี้จะสามารถถูกเรียกออกมาดูหรืออ่านได้โดยเซิร์ฟเวอร์ที่สร้างคุกกี้ดังกล่าวเท่านั้น และเนื้อหาดังกล่าวจะถูกส่งกลับไปยังเว็บไซต์ต้นทางในการเยี่ยมชมแต่ละครั้ง ข้อความที่อยู่ในคุกกี้มักประกอบด้วยข้อมูลระบุตัวตน ชื่อเว็บไซต์ รวมถึงตัวเลขและตัวอักษรบางอย่าง โดยคุกกี้จะมีการจัดเก็บรายละเอียดพฤติกรรมการเยี่ยมชมเว็บไซต์และสิ่งที่ถูกเลือกถึงบ่อยโดยท่านและบราวเซอร์ของท่าน
ท่านสามารถพิจารณารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ในนโยบายการใช้คุกกี้[4]
เว็บไซต์อื่น
เว็บไซต์นี้อาจมีตัวเชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์อื่น หากท่านได้กด link ไปยังเว็บไซต์อื่นอาจเป็นการอนุญาตให้บุคคลภายนอกเก็บรวบรวมและเปิดเผยข้อมูลของท่านได้ บริษัทไม่ได้ควบคุมเว็บไซต์อื่นเหล่านั้นและไม่มีความรับผิดชอบใดๆ ต่อการดำเนินการเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของเว็บไซต์เหล่านั้น เมื่อท่านออกจากเว็บไซต์ของบริษัท บริษัทแนะนำให้ท่านอ่านนโยบายเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของทุกเว็บไซต์ที่ท่านได้เยี่ยมชม
[1] ในกรณีที่จะนำประกาศนี้ลงใน website ให้ทำ คำว่า “หนังสือแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล” ให้เป็น link ไปที่เอกสารดังกล่าว
[2] ในกรณีที่จะนำประกาศนี้ลงใน website ให้ทำ คำว่า “หนังสือแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล” ให้เป็น link ไปที่เอกสารดังกล่าว
[3] ในกรณีที่จะนำประกาศนี้ลงใน website ให้ทำ คำว่า “หนังสือแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล” ให้เป็น link ไปที่เอกสารดังกล่าว
[4] สำนักงานได้จัดทำร่างนโยบายคุกกี้ขึ้นเพื่อให้สามารถรองรับการใช้งานคุกกี้ / การเก็บข้อมูลโดยใช้คุกกี้ได้ รบกวนทางทีม AWC โปรดพิจารณาและหารือกับทางทีม IT ในกรณีจะมีการใช้คุกกี้ในการเก็บข้อมูลใดๆ โปรดกรอกข้อมูลที่เกี่ยวข้องในนโยบายดังกล่าวและทำเป็นลิ้งค์กับนโยบายฉบับนี้
- รายละเอียดเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทที่มีรายชื่อปรากฏตามเอกสาร “รายชื่อกลุ่มบริษัทสำหรับการดำเนินการเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล” (ซึ่งรวมเรียกว่า “บริษัท”) มีการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลของท่านตามรายละเอียดที่ปรากฏในข้อ 1 และข้อ 2 ด้านล่าง และเนื่องจากข้อมูลบางประการมีลักษณะเป็นข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งได้รับการคุ้มครองตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 เพื่อให้การดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลเหล่านี้เป็นไปตามข้อกำหนดของกฎหมาย บริษัทจึงจัดทำเอกสารฉบับนี้ขึ้น เพื่อให้ท่านได้รับทราบรายละเอียดเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลและสิทธิตามกฎหมายของท่าน โปรดอ่านโดยละเอียดและทำความเข้าใจเพื่อประโยชน์ในการใช้สิทธิของท่าน
- การเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคล
ในการประกอบธุรกิจของบริษัท บริษัทมีการเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ตามรายละเอียด ดังต่อไปนี้
ประเภทเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล | ข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมและใช้ | วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมและใช้ | ฐานความชอบด้วยกฎหมายในการเก็บรวบรวมและใช้ |
ลูกค้า | ชื่อและนามสกุล, ที่อยู่, อีเมล, เบอร์ติดต่อ, นามบัตร, สำเนาบัตรประชาชนหรือสำเนาหนังสือเดินทาง (ซึ่งประกอบด้วยชื่อและนามสกุล, เพศ, สัญชาติ, วันเกิด, อายุ, ที่อยู่, รูปถ่าย), สำเนาทะเบียนบ้าน, พฤติกรรมการใช้บริการและซื้อสินค้า, ประวัติการใช้บริการ การซื้อสินค้า และการชำระเงิน, AWC Connext Application ID, LINE ID, ลายมือชื่อ, เลขประจำตัวผู้เสียภาษี และข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง | – เพื่อใช้ในการประกอบธุรกิจของบริษัท
– เพื่อเป็นฐานข้อมูลในการติดต่อและประสานงาน – เพื่อประกอบการทำสัญญา – เพื่อแจ้งเตือนเมื่อถึงกำหนดชำระเงิน – เพื่อการใช้สิทธิทางกฎหมายและการปฏิบัติการที่จำเป็นตามกฎหมายอันเกี่ยวข้องกับสินค้าและบริการ |
จำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท, เพื่อการปฏิบัติตามสัญญา, เพื่อปฏิบัติและใช้สิทธิตามกฎหมาย |
ชื่อและนามสกุล, ที่อยู่, สำเนาบัตรประชาชนหรือสำเนาหนังสือเดินทาง (ซึ่งประกอบด้วยชื่อและนามสกุล, เพศ, สัญชาติ, วันเกิด, อายุ, ที่อยู่, รูปถ่าย), รายละเอียดบัญชีธนาคาร, ลายมือชื่อ และข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง | – เพื่อจัดทำหนังสือทวงหนี้
– เพื่อจัดทำงบการเงิน และรายงานต่างๆ ตามที่กฎหมายกำหนด – เพื่อใช้ในการออกใบเสนอราคา ใบแจ้งหนี้ และใบเสร็จรับเงิน – เพื่อคืนเงินประกันสำหรับลูกค้าที่เป็นผู้เช่าพื้นที่โครงการ – เพื่อการใช้สิทธิทางกฎหมายและการปฏิบัติการที่จำเป็นตามกฎหมายอันเกี่ยวข้องกับสินค้าและบริการ |
จำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท, เพื่อการปฏิบัติตามสัญญา, เพื่อปฏิบัติและใช้สิทธิตามกฎหมาย | |
สำเนาบัตรประชาชนหรือสำเนาหนังสือเดินทาง, สำเนาทะเบียนบ้าน, หมายเลขห้องที่เช่า, ทะเบียนรถยนต์, ลายมือชื่อ, สำเนาสมุดทะเบียนรถ และข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง | – เพื่อเป็นฐานข้อมูลของลูกค้าที่เช่าที่จอดรถรายเดือนสำหรับลูกค้าที่เป็นผู้เช่าพื้นที่โครงการ
– เพื่อทำบัตรจอดรถรายเดือนสำหรับลูกค้าที่เป็นผู้เช่าพื้นที่โครงการ |
จำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท, เพื่อการปฏิบัติตามสัญญา | |
ชื่อและนามสกุล, เพศ, อายุ, วันเกิด, อีเมล, เบอร์ติดต่อ, ที่อยู่, เลขบัตรประชาชนหรือหนังสือเดินทาง, พฤติกรรมการใช้บริการและซื้อสินค้า, ประวัติการใช้บริการ การซื้อสินค้า และการชำระเงิน, AWC Connext Application ID, LINE ID, Facebook ID, Google ID, บัญชีผู้ใช้ในโซเชียลมีเดียอื่นๆ และข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง | – เพื่อการโฆษณา, การทำการตลาด, การนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการ, การให้สิทธิประโยชน์และข้อเสนอพิเศษสำหรับผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัทผ่านช่องทางต่างๆ เช่น อีเมล, ข้อความในโทรศัพท์มือถือ, ไปรษณีย์, Call Center, AWC Connext Application, LINE และ อื่นๆ- เพื่อการสำรวจวิเคราะห์และวิจัยด้านการตลาด, การวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้า, การพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัท |
ได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล | |
ผู้ที่มีแนวโน้มจะซื้อหรือใช้สินค้าและบริการของบริษัท (Potential customers) | ชื่อและนามสกุล, อีเมล, เบอร์ติดต่อ, นามบัตร และข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง | – เพื่อเป็นฐานข้อมูลในการติดต่อและประสานงาน
– เพื่อเป็นฐานข้อมูลสำหรับติดต่อในกรณีมีพื้นที่ว่างให้เช่า |
จำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท, เพื่อการปฏิบัติตามสัญญา |
ชื่อและนามสกุล, เพศ, อายุ, วันเกิด, อีเมล, เบอร์ติดต่อ, ที่อยู่, เลขบัตรประชาชน/หนังสือเดินทาง, พฤติกรรมการใช้บริการและซื้อสินค้า, ประวัติการใช้บริการ การซื้อสินค้า และการชำระเงิน, AWC Connext Application ID, LINE ID, Facebook ID, Google ID, บัญชีผู้ใช้ในโซเชียลมีเดียอื่นๆ และข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง | – เพื่อการโฆษณา, การทำการตลาด, การนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการ, การให้สิทธิประโยชน์และข้อเสนอพิเศษสำหรับผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัทผ่านช่องทางต่างๆ เช่น อีเมล ข้อความในโทรศัพท์มือถือ, ไปรษณีย์, Call Center, AWC Connext Application, LINE และอื่นๆ
– เพื่อการสำรวจวิเคราะห์และวิจัยด้านการตลาด, การวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้า, การพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัท |
ได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล | |
ผู้ที่ได้รับอุบัติเหตุบริเวณโครงการ | สำเนาบัตรประชาชน สำเนาหนังสือเดินทาง หรือสำเนาใบขับขี่ (ซึ่งประกอบด้วยชื่อและนามสกุล, เพศ, สัญชาติ, วันเกิด, อายุ, ที่อยู่, รูปถ่าย), เบอร์ติดต่อ, รูปถ่ายเหตุการณ์, ใบรับรองแพทย์ และข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง | – เพื่อดำเนินการเกี่ยวกับการใช้สิทธิตามสัญญาประกันภัย
– เพื่อใช้ในการจัดทำเอกสารรายงานอุบัติเหตุ (Incident Report) |
จำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท, ได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล |
ผู้ให้บริการ, ผู้จัดหาสินค้าและวัตถุดิบ, ที่ปรึกษาวิชาชีพ, พันธมิตรทางธุรกิจ, ผู้รับเหมา | ชื่อและนามสกุล, เพศ, อายุ, วันเกิด, อีเมล, เบอร์ติดต่อ, รูปถ่าย, สำเนาบัตรประชาชนหรือสำเนาหนังสือเดินทาง (ซึ่งประกอบด้วยชื่อและนามสกุล, เพศ, สัญชาติ, วันเกิด, อายุ, ที่อยู่, รูปถ่าย), ใบอนุญาตทำงาน, รายละเอียดบัญชีธนาคาร, นามบัตร, LINE ID และข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง | – เพื่อใช้ในการดำเนินธุรกิจของบริษัท
– เพื่อเป็นฐานข้อมูลในการติดต่อและประสานงาน – เพื่อประกอบการทำสัญญา – เพื่อการใช้สิทธิทางกฎหมายและการปฏิบัติการที่จำเป็นตามกฎหมายอันเกี่ยวข้องกับสินค้าและบริการ – เพื่อจัดทำทะเบียนควบคุมทรัพย์สินของบริษัท (กรณีมีการซื้อทรัพย์สินของบริษัท) |
จำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท, เพื่อการปฏิบัติตามสัญญา, เพื่อปฏิบัติและใช้สิทธิตามกฎหมาย |
สำเนาบัตรประชาชนหรือสำเนาหนังสือเดินทาง (ซึ่งประกอบด้วยชื่อและนามสกุล, เพศ, สัญชาติ, วันเกิด, อายุ, ที่อยู่, รูปถ่าย), รายละเอียดบัญชีธนาคาร, ลายมือชื่อ และข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง | – เพื่อออกใบแจ้งหนี้ และใบเสร็จรับเงิน
– เพื่อจัดทำหนังสือทวงหนี้ – เพื่อจัดทำงบการเงิน และรายงานต่างๆ ตามที่กฎหมายกำหนด |
จำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท, เพื่อการปฏิบัติตามสัญญา, เพื่อปฏิบัติและใช้สิทธิตามกฎหมาย | |
ชื่อและนามสกุล, เพศ, อายุ, วันเกิด, อีเมล, เบอร์ติดต่อ, รูปถ่าย, สำเนาบัตรประชาชนหรือสำเนาหนังสือเดินทาง (ซึ่งประกอบด้วยชื่อและนามสกุล, เพศ, สัญชาติ, วันเกิด, อายุ, ที่อยู่, รูปถ่าย), ใบอนุญาตทำงาน, รายละเอียดบัญชีธนาคาร, นามบัตร, LINE ID และข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง | – เพื่อการโฆษณา, การทำการตลาด, การนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการ, การให้สิทธิประโยชน์และข้อเสนอพิเศษสำหรับผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัทผ่านช่องทางต่างๆ เช่น อีเมล ข้อความในโทรศัพท์มือถือ, ไปรษณีย์, Call Center, AWC Connext Application, LINE และอื่นๆ
– เพื่อการสำรวจวิเคราะห์และวิจัยด้านการตลาด, การวิเคราะห์พฤติกรรม, การพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัท |
ได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล | |
ผู้มาติดต่อบริเวณโครงการ | สำเนาบัตรประชาชน สำเนาหนังสือเดินทาง หรือสำเนาใบขับขี่ (กรณีใช้แสดงแทนบัตรประชาชน) (ซึ่งประกอบด้วยชื่อและนามสกุล, เพศ, สัญชาติ, วันเกิด, อายุ, ที่อยู่, รูปถ่าย), เลขทะเบียนรถ และข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง | – เพื่อเป็นฐานข้อมูล และสามารถใช้อ้างอิงหรือติดตามได้กรณีที่ผู้มาติดต่อสร้างปัญหาหรือความเสียหายให้แก่ลูกค้าที่เป็นผู้เช่า
– เพื่อเป็นข้อมูลอ้างอิงในการเก็บเงินค่าที่จอดรถ |
จำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท, เพื่อการปฏิบัติตามสัญญา |
สื่อมวลชน, เจ้าหน้าที่หน่วยงานราชการและองค์กรต่างๆ | ชื่อและนามสกุล, ตำแหน่งงาน, ที่อยู่, อีเมล, เบอร์ติดต่อ และข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง | – เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับการติดต่อประสานงาน | จำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท |
บุคคลธรรมดาที่อยู่บริเวณที่มีกล้องวงจรปิดในโครงการของบริษัท | ภาพเคลื่อนไหวจากกล้องวงจรปิดบริเวณโครงการ และข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง | – เพื่อใช้เป็นหลักฐานและข้อมูลประกอบกรณีที่มีอุบัติเหตุหรือเหตุการณ์ใดๆ เกิดขึ้น
– เพื่อการใช้สิทธิทางกฎหมายและการปฏิบัติการที่จำเป็นตามกฎหมาย |
จำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท |
กรรมการของบริษัท และสมาชิกในครอบครัว | ชื่อและนามสกุล, เพศ, วันเกิด, ที่อยู่, อีเมล, เบอร์ติดต่อ, ประวัติการศึกษา, ประสบการณ์ทำงาน, ประวัติย่อ (Resume), สำเนาบัตรประชาชน สำเนาหนังสือเดินทาง หรือสำเนาใบขับขี่ (ซึ่งประกอบด้วยชื่อและนามสกุล, เพศ, สัญชาติ, วันเกิด, อายุ, ที่อยู่, รูปถ่าย), รูปถ่าย, ประวัติการแพ้อาหาร, เลขป้ายทะเบียนรถ, รายละเอียดบัญชีธนาคาร และข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง |
– เพื่อเป็นฐานข้อมูลของบริษัท
– เพื่อจัดทำการตรวจสอบข้อมูลกรณีการทำรายการกับบุคคลที่เกี่ยวโยงกัน – เพื่อการใช้สิทธิทางกฎหมายและการปฏิบัติการที่จำเป็นตามกฎหมาย |
จำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท, เพื่อการปฏิบัติตามสัญญา, เพื่อปฏิบัติและใช้สิทธิตามกฎหมาย |
ผู้ถือหุ้นของบริษัท และผู้รับมอบฉันทะของผู้ถือหุ้น | ชื่อและนามสกุล, ที่อยู่, เบอร์ติดต่อ, วันเกิด, ที่อยู่, รูปถ่าย, จำนวนหุ้นที่ถือ, เลขทะเบียนผู้ถือหุ้น, ลายมือชื่อ, สำเนาบัตรประชาชน (ซึ่งประกอบด้วยชื่อและนามสกุล, เพศ, สัญชาติ, วันเกิด, อายุ, ที่อยู่, รูปถ่าย) และข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง | – เพื่อเป็นฐานข้อมูลของบริษัท
– เพื่อยืนยันตัวตนในการเข้าประชุมผู้ถือหุ้น – เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับการจัดเตรียมประชุมผู้ถือหุ้น – เพื่อการใช้สิทธิทางกฎหมายและการปฏิบัติการที่จำเป็นตามกฎหมาย |
จำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท, เพื่อการปฏิบัติตามสัญญา, เพื่อปฏิบัติและใช้สิทธิตามกฎหมาย |
ผู้ขายสินค้าผ่าน online platform ของโครงการ AEC Trade Center ที่เป็นบุคคลธรรมดา | ชื่อและนามสกุล, ที่อยู่, อีเมล, เบอร์ติดต่อ, วันเกิด, เพศ, อายุ, สถานภาพสมรส, สัญชาติ เลขประจำตัวประชาชน Username, Password, รายละเอียดบัญชีธนาคาร และข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง | – เพื่อการบริหารจัดการ online platform ของโครงการ AEC Trade Center
– เพื่อเป็นฐานข้อมูลของบริษัท – เพื่อการติดต่อสื่อสาร และการใช้สิทธิเรียกร้องใดๆ ตามกฎหมาย |
จำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท, เพื่อการปฏิบัติตามสัญญา, เพื่อปฏิบัติและใช้สิทธิตามกฎหมาย |
– เพื่อการโฆษณา, การทำการตลาด, การนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการ, การให้สิทธิประโยชน์และข้อเสนอพิเศษสำหรับผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัทผ่านช่องทางต่างๆ เช่น อีเมล ข้อความในโทรศัพท์มือถือ ไปรษณีย์
– เพื่อการสำรวจวิเคราะห์และวิจัยด้านการตลาด, การวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้า, การพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัท |
ได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล | ||
ชื่อและนามสกุล, รายละเอียดบัญชีธนาคาร และข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง | – เพื่อโอนเงินค่าสินค้าที่ขายได้ให้แก่ผู้ขาย
– เพื่อการทำบัญชี |
จำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท, เพื่อการปฏิบัติตามสัญญา | |
ชื่อและนามสกุล, ที่อยู่, เบอร์ติดต่อ และข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง | – เพื่อเป็นข้อมูลในการไปรับสินค้าเพื่อจัดส่งให้ผู้ซื้อต่อไป | จำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท, เพื่อการปฏิบัติตามสัญญา | |
ผู้ซื้อสินค้าผ่าน online platform ของโครงการ AEC Trade Center ที่เป็นบุคคลธรรมดา | ชื่อและนามสกุล, ที่อยู่, อีเมล, เบอร์ติดต่อ, วันเกิด, เพศ, อายุ, สถานภาพสมรส, สัญชาติ เลขประจำตัวประชาชน, Username, Password, Customer ID, พฤติกรรมในการใช้ Online Platform, รายละเอียดบัญชีธนาคาร และข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง |
– เพื่อการบริหารจัดการ online platform ของโครงการ AEC Trade Center
– เพื่อเป็นฐานข้อมูลของบริษัท – เพื่อการติดต่อสื่อสาร และการใช้สิทธิเรียกร้องใดๆ ตามกฎหมาย |
จำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท, เพื่อการปฏิบัติตามสัญญา, เพื่อปฏิบัติและใช้สิทธิตามกฎหมาย |
– เพื่อการโฆษณา, การทำการตลาด, การนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการ, การให้สิทธิประโยชน์และข้อเสนอพิเศษสำหรับผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัท ผ่านช่องทางต่างๆ เช่น อีเมล ข้อความในโทรศัพท์มือถือ ไปรษณีย์
– เพื่อการสำรวจวิเคราะห์และวิจัยด้านการตลาด, การวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้า, การพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัท |
ได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล | ||
ชื่อและนามสกุล, รายละเอียดบัญชีธนาคาร และข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง | – เพื่อโอนเงินค่าสินค้าคืน ในกรณีที่มีการคืนสินค้าและขอคืนเงิน
– เพื่อการทำบัญชี |
จำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท, เพื่อการปฏิบัติตามสัญญา | |
ชื่อและนามสกุล, ที่อยู่, เบอร์ติดต่อ และข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง | – เพื่อเป็นข้อมูลในการดำเนินการจัดส่งสินค้า | จำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท, เพื่อการปฏิบัติตามสัญญา |
- การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
ในการประกอบธุรกิจของบริษัท บริษัทมีการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บุคคลภายนอก ตามรายละเอียด ดังต่อไปนี้
ประเภทเจ้าของข้อมูล | ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีการเปิดเผย | วัตถุประสงค์ในการเปิดเผย | ฐานความชอบด้วยกฎหมายในการเปิดเผย | ประเภทของบุคคลที่จะได้รับข้อมูลส่วนบุคคล |
ลูกค้า | ชื่อและนามสกุล, ที่อยู่, อีเมล, เบอร์ติดต่อ, นามบัตร, สำเนาบัตรประชาชน หรือสำเนาหนังสือเดินทาง (ซึ่งประกอบด้วยชื่อและนามสกุล, เพศ, สัญชาติ, วันเกิด, อายุ, ที่อยู่, รูปถ่าย), พฤติกรรมการใช้บริการและซื้อสินค้า, ประวัติการใช้บริการ การซื้อสินค้า และการชำระเงิน, AWC Connext Application ID, และข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
|
– เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
– เพื่อการใช้สิทธิทางกฎหมายและการปฏิบัติการที่จำเป็นตามกฎหมายอันเกี่ยวข้องกับสินค้าและบริการ – เพื่อพัฒนาแอปพลิเคชั่น AWC Connext |
จำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท, เพื่อการปฏิบัติตามสัญญา, เพื่อปฏิบัติและใช้สิทธิตามกฎหมาย | – หน่วยงานราชการ (ตามที่หน่วยงานราชการนั้นๆ ร้องขอ) เช่น กรมสรรพากร, ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย, กระทรวงพาณิชย์, กรมบัญชีกลาง, กรมการปกครอง
– ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท ซึ่งเป็นผู้ให้บริการด้านการพัฒนาแอปพลิเคชั่น AWC Connext – บริษัทที่ปรึกษาวิชาชีพ เช่น ที่ปรึกษาด้านการเงิน หรือด้านกฎหมาย – บริษัทผู้ให้บริการ – บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จํากัด (มหาชน) ในฐานะผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งดูแลงานด้านการบัญชี งานด้านการจัดเก็บเอกสารให้กับบริษัท |
ผู้ที่มีแนวโน้มจะซื้อหรือใช้สินค้าและบริการของบริษัท (Potential customers) | ชื่อและนามสกุล, เพศ, อายุ, วันเกิด, อีเมล, เบอร์ติดต่อ, ที่อยู่, เลขบัตรประชาชนหรือเลขหนังสือเดินทาง, พฤติกรรมการใช้บริการและซื้อสินค้า, ประวัติการใช้บริการ การซื้อสินค้า และการชำระเงิน, AWC Connext Application ID, LINE ID, Facebook ID, Google ID, บัญชีผู้ใช้ในโซเชียลมีเดียอื่นๆ และข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง | – เพื่อการโฆษณา, การทำการตลาด, การนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการ การให้สิทธิประโยชน์ และข้อเสนอพิเศษสำหรับผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัท ผ่านช่องทางต่างๆ เช่น อีเมล, ข้อความในโทรศัพท์มือถือ, ไปรษณีย์, Call Center, AWC Connext Application, LINE และอื่นๆ- เพื่อการสำรวจวิเคราะห์และวิจัยด้านการตลาด, การวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้า, การพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัท |
ได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล | บริษัทที่มีรายชื่อปรากฎตาม “รายชื่อกลุ่มบริษัทสำหรับการดำเนินการเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล” |
ผู้ที่ได้รับอุบัติเหตุบริเวณโครงการ | สำเนาบัตรประชาชน สำเนาหนังสือเดินทาง หรือสำเนาใบขับขี่ (ซึ่งประกอบด้วยชื่อและนามสกุล, เพศ, สัญชาติ, วันเกิด, อายุ, ที่อยู่, รูปถ่าย), เบอร์ติดต่อ, รูปถ่ายเหตุการณ์, ใบรับรองแพทย์ และข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง | – เพื่อดำเนินการเกี่ยวกับการใช้สิทธิตามสัญญาประกันภัย
– เพื่อใช้ในการจัดทำเอกสารรายงานอุบัติเหตุ (Incident Report) |
จำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท, เพื่อการปฏิบัติตามสัญญา, เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพ, เพื่อปฏิบัติและใช้สิทธิตามกฎหมาย, ได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล | บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จํากัด (มหาชน) |
– เพื่อดำเนินการเกี่ยวกับการใช้สิทธิตามสัญญาประกันภัย | จำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท, เพื่อการปฏิบัติตามสัญญา, เพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพ, เพื่อปฏิบัติและใช้สิทธิตามกฎหมาย, ได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล | บริษัทประกันภัย | ||
บุคคลธรรมดาที่อยู่บริเวณที่มีกล้องวงจรปิดในโครงการของบริษัท | ภาพเคลื่อนไหวจากกล้องวงจรปิดบริเวณโครงการ และข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง | – เพื่อใช้เป็นหลักฐานและข้อมูลประกอบกรณีที่มีอุบัติเหตุหรือเหตุการณ์ใดๆ เกิดขึ้น
– เพื่อการใช้สิทธิทางกฎหมายและการปฏิบัติการที่จำเป็นตามกฎหมาย |
จำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท | เจ้าทุกข์, ผู้เสียหาย, ผู้ที่เช่าพื้นที่, เจ้าหน้าที่ตำรวจ, บริษัทประกันภัย |
ผู้ให้บริการ, ผู้จัดหาสินค้าและวัตถุดิบ, ที่ปรึกษาวิชาชีพ, พันธมิตรทางธุรกิจ | ชื่อและนามสกุล, อีเมล, เบอร์ติดต่อ, สำเนาบัตรประชาชนหรือสำเนาหนังสือเดินทาง (ซึ่งประกอบด้วยชื่อและนามสกุล, เพศ, สัญชาติ, วันเกิด, อายุ, ที่อยู่, รูปถ่าย) และข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง | – เพื่อใช้ในการประกอบธุรกิจของบริษัท
– เพื่อเป็นฐานข้อมูล – เพื่อประกอบการทำสัญญา |
จำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท, เพื่อการปฏิบัติตามสัญญา | บริษัทที่มีรายชื่อปรากฎตาม “รายชื่อกลุ่มบริษัทสำหรับการดำเนินการเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล” |
ชื่อและนามสกุล, เพศ, อายุ, วันเกิด, อีเมล, เบอร์ติดต่อ, รูปถ่าย, สำเนาบัตรประชาชนหรือสำเนาหนังสือเดินทาง (ซึ่งประกอบด้วยชื่อและนามสกุล, เพศ, สัญชาติ, วันเกิด, อายุ, ที่อยู่, รูปถ่าย), ใบอนุญาตทำงาน, รายละเอียดบัญชีธนาคาร และข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง | – เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
– เพื่อการใช้สิทธิทางกฎหมายและการปฏิบัติการที่จำเป็นตามกฎหมาย |
จำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท, เพื่อการปฏิบัติตามสัญญา, เพื่อปฏิบัติและใช้สิทธิตามกฎหมาย | – หน่วยงานราชการ (ตามที่หน่วยงานราชการนั้นๆ ร้องขอ) เช่น กรมสรรพากร, ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย, กระทรวงพาณิชย์, กรมบัญชีกลาง, กรมการปกครอง
– บริษัทที่ปรึกษาวิชาชีพ เช่น ที่ปรึกษาด้านการเงิน หรือด้านกฎหมาย – บริษัทผู้ให้บริการ |
|
ชื่อและนามสกุล, รายละเอียดบัญชีธนาคาร และข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง | เพื่อทำธุรกรรมทางการเงิน | จำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท, เพื่อการปฏิบัติตามสัญญา | ธนาคารที่เกี่ยวข้อง | |
ชื่อและนามสกุล, เพศ, อายุ, วันเกิด, อีเมล, เบอร์ติดต่อ, รูปถ่าย, สำเนาบัตรประชาชน หรือสำเนาหนังสือเดินทาง (ซึ่งประกอบด้วยชื่อและนามสกุล, เพศ, สัญชาติ, วันเกิด, อายุ, ที่อยู่, รูปถ่าย), ใบอนุญาตทำงาน, รายละเอียดบัญชีธนาคาร, นามบัตร, LINE ID และข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง | – เพื่อการโฆษณา การทำการตลาด, การนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการ, การให้สิทธิประโยชน์และข้อเสนอพิเศษสำหรับผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัทผ่านช่องทางต่างๆ เช่น อีเมล ข้อความในโทรศัพท์มือถือ, ไปรษณีย์, Call Center, AWC Connext Application, LINE และอื่นๆ
– เพื่อการสำรวจวิเคราะห์และวิจัยด้านการตลาด, การวิเคราะห์พฤติกรรม, การพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัท |
ได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล | บริษัทที่มีรายชื่อปรากฎตาม “รายชื่อกลุ่มบริษัทสำหรับการดำเนินการเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล” | |
ผู้ขายสินค้าผ่าน online platform ของโครงการ AEC Trade Center ที่เป็นบุคคลธรรมดา | ชื่อและนามสกุล, ที่อยู่, อีเมล, เบอร์ติดต่อ, วันเกิด, เพศ, อายุ, สถานภาพสมรส, สัญชาติ, เลขประจำตัวประชาชน Username, Password, รายละเอียดบัญชีธนาคาร และข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง |
– เพื่อการบริหารจัดการ online platform ของโครงการ AEC Trade Center
– เพื่อเป็นฐานข้อมูลของบริษัท – เพื่อการติดต่อสื่อสาร และการใช้สิทธิเรียกร้องใดๆ ตามกฎหมาย |
จำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท, เพื่อการปฏิบัติตามสัญญา, เพื่อปฏิบัติและใช้สิทธิตามกฎหมาย | บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จํากัด (มหาชน) ในฐานะผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งดูแลบริหารจัดการ online platform ของโครงการ AEC Trade Center เช่นด้านการตลาดออนไลน์ (Online Marketing), การบัญชี และการยื่นภาษี ให้กับบริษัท |
– เพื่อการโฆษณา, การทำการตลาด, การนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการ, การให้สิทธิประโยชน์และข้อเสนอพิเศษสำหรับผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัทผ่านช่องทางต่างๆ เช่น อีเมล ข้อความในโทรศัพท์มือถือ ไปรษณีย์
– เพื่อการสำรวจวิเคราะห์และวิจัยด้านการตลาด, การวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้า, การพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัท |
ได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล | บริษัทที่มีรายชื่อปรากฎตาม “รายชื่อกลุ่มบริษัทสำหรับการดำเนินการเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล” | ||
ชื่อและนามสกุล, รายละเอียดบัญชีธนาคาร และข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
|
– เพื่อโอนเงินค่าสินค้าที่ขายได้ให้แก่ผู้ขาย
– เพื่อการทำบัญชี
|
จำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท, เพื่อการปฏิบัติตามสัญญา
|
– บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จํากัด (มหาชน) ในฐานะผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งดูแลบริหารจัดการ online platform ของโครงการ AEC Trade Center เช่น ด้านการตลาดออนไลน์ (Online Marketing), การบัญชี และการยื่นภาษี ให้กับบริษัท
– ธนาคารที่เป็นผู้ให้บริการระบบรับชำระเงิน |
|
ชื่อและนามสกุล, ที่อยู่, เบอร์ติดต่อ และข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง | – เพื่อเป็นข้อมูลในการไปรับสินค้าเพื่อจัดส่งให้ผู้ซื้อต่อไป | จำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท, เพื่อการปฏิบัติตามสัญญา | ผู้ให้บริการขนส่งสินค้า (กรณีใช้บริการขนส่งสินค้าที่บริษัทจัดเตรียมให้ใน online platform) | |
ผู้ซื้อสินค้าผ่าน online platform ของโครงการ AEC Trade Center ที่เป็นบุคคลธรรมดา | ชื่อและนามสกุล, ที่อยู่, อีเมล, เบอร์ติดต่อ, วันเกิด, เพศ, อายุ, สถานภาพสมรส, สัญชาติ, เลขประจำตัวประชาชน, Username, Password, Customer ID, พฤติกรรมในการใช้ Online Platform, รายละเอียดบัญชีธนาคาร และข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง | – เพื่อการบริหารจัดการ online platform ของโครงการ AEC Trade Center
– เพื่อเป็นฐานข้อมูลของบริษัท – เพื่อการติดต่อสื่อสาร และการใช้สิทธิเรียกร้องใดๆ ตามกฎหมาย |
จำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท, เพื่อการปฏิบัติตามสัญญา, เพื่อปฏิบัติและใช้สิทธิตามกฎหมาย
|
บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จํากัด (มหาชน) ในฐานะผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งดูแลบริหารจัดการ online platform ของโครงการ AEC Trade Center เช่นด้านการตลาดออนไลน์ (Online Marketing), การบัญชี และการยื่นภาษี ให้กับบริษัท |
– เพื่อการโฆษณา, การทำการตลาด, การนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการ, การให้สิทธิประโยชน์และข้อเสนอพิเศษสำหรับผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัทผ่านช่องทางต่างๆ เช่น อีเมล ข้อความในโทรศัพท์มือถือ ไปรษณีย์
– เพื่อการสำรวจวิเคราะห์และวิจัยด้านการตลาด, การวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้า, การพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัท |
ได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล | บริษัทที่มีรายชื่อปรากฎตาม “รายชื่อกลุ่มบริษัทสำหรับการดำเนินการเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล” | ||
ชื่อและนามสกุล, รายละเอียดบัญชีธนาคาร และข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง | – เพื่อโอนเงินค่าสินค้าคืน ในกรณีที่มีการคืนสินค้าและขอคืนเงิน
– เพื่อการทำบัญชี
|
จำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท, เพื่อการปฏิบัติตามสัญญา
|
– บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จํากัด (มหาชน) ในฐานะผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งดูแลบริหารจัดการ online platform ของโครงการ AEC Trade Center เช่นด้านการตลาดออนไลน์ (Online Marketing), การบัญชี และการยื่นภาษี ให้กับบริษัท
– ธนาคารที่เป็นผู้ให้บริการระบบรับชำระเงิน |
|
ชื่อและนามสกุล, ที่อยู่, เบอร์ติดต่อ และข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง | – เพื่อเป็นข้อมูลในการดำเนินการจัดส่งสินค้า
|
จำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท, เพื่อการปฏิบัติตามสัญญา
|
– ผู้ให้บริการขนส่งสินค้า (กรณีใช้บริการขนส่งสินค้าที่บริษัทจัดเตรียมให้ใน online platform)
– ผู้ขาย (กรณีที่ผู้ซื้อเลือกให้ผู้ขายเป็นผู้จัดส่งสินค้า) |
|
Customer ID, พฤติกรรมในการใช้ online platform | – เพื่อการวิเคราะห์ข้อมูลและพัฒนา online platform ของโครงการ AEC Trade Center | จำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท, ได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล | ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทซึ่งให้บริการวิเคราะห์ข้อมูล(Google Analytics) | |
กรรมการของบริษัท และสมาชิกในครอบครัว | ชื่อและนามสกุล, เพศ, วันเกิด, ที่อยู่, อีเมล, เบอร์ติดต่อ, ประวัติการศึกษา, ประสบการณ์ทำงาน, ประวัติย่อ (Resume), สำเนาบัตรประชาชน สำเนาหนังสือเดินทาง หรือสำเนาใบขับขี่ (ซึ่งประกอบด้วยชื่อและนามสกุล, เพศ, สัญชาติ, วันเกิด, อายุ, ที่อยู่, รูปถ่าย), รูปถ่าย |
– เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
– เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่กรรมการในการปฏิบัติงานหรือทำธุรกรรมต่างๆ |
จำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท, เพื่อการปฏิบัติตามสัญญา, เพื่อปฏิบัติและใช้สิทธิตามกฎหมาย | – หน่วยงานราชการ ที่เกี่ยวข้อง เช่น ตลาดหลักทรัพย์แห่ง ประเทศไทย, สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์, กระทรวงพาณิชย์, สถานทูต- ผู้ให้บริการด้านต่างๆ เช่น ตัวแทนรับจองตั๋วเครื่องบิน – ผู้อื่นที่ขอข้อมูล เช่น ธนาคารไทยพาณิชย์เพื่อจัดทำวารสาร |
- ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน (ก) เป็นระยะเวลา 30 ปี นับตั้งแต่วันที่บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน สำหรับกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลอยู่ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์และสำหรับกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลอยู่ในรูปแบบเอกสารจำพวกใบอนุญาต เอกสารเกี่ยวกับการออกแบบโครงการ (Drawing) รายงานการประชุม และเอกสารแสดงกรรมสิทธิ์ต่างๆ และ (ข) เป็นระยะเวลา 10 ปี นับตั้งแต่วันที่บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน สำหรับกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลอยู่ในรูปแบบเอกสารอื่นๆ
- สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิได้รับการคุ้มครองตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ตามรายละเอียดที่ปรากฏในเอกสารแนบ 1
- การติดต่อบริษัท
ในกรณีที่ท่านประสงค์จะใช้สิทธิอย่างใดๆ ของท่านตามที่ระบุไว้ในหัวข้อ “สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล” ข้างต้น ท่านสามารถแจ้งความประสงค์ในการใช้สิทธิดังกล่าวมายังบริษัทได้ในช่องทาง ดังต่อไปนี้
- หน่วยงานคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท
- เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล: สิเวศ โรจนสุนทร (ดร.)
- ช่องทางการติดต่อ: https://www.assetworldcorp-th.com/en/home
[email protected] - ที่อยู่: บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน)
- ชั้น 54 อาคารเอ็มไพร์ ทาวเวอร์ ถนนสาทรใต้
แขวงยานนาวา เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120
เอกสารแนบ 1
สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิได้รับการคุ้มครองตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ดังต่อไปนี้
- สิทธิในการขอถอนความยินยอม
ในกรณีที่บริษัทมีการขอและได้รับความยินยอมจากท่านเพื่อเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านมีสิทธิในการถอนความยินยอมในการให้บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวได้ทุกเมื่อ โดยบริษัทจะพิจารณาคำขอของท่านเพื่อดำเนินการที่เหมาะสมต่อไป ภายใน 30 (สามสิบ) วัน นับแต่วันที่ได้รับคำขอดังกล่าว
- สิทธิในการขอเข้าถึงและรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทจัดเก็บไว้
ท่านมีสิทธิขอเข้าถึงและรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่บริษัทได้จัดเก็บไว้ โดยบริษัทจะพิจารณาคำขอของท่านเพื่อดำเนินการที่เหมาะสมต่อไป ภายใน 30 (สามสิบ) วัน นับแต่วันที่ได้รับคำขอดังกล่าว อย่างไรก็ตาม บริษัทขอสงวนสิทธิในการปฏิเสธคำขอใช้สิทธิดังกล่าวของท่าน หากเป็นการปฏิเสธตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล และการเข้าถึงและ/หรือการขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลนั้นจะส่งผลกระทบที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น
- สิทธิในการขอให้เปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทได้รับโดยที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอม หรือได้รับจากแหล่งอื่น
ท่านมีสิทธิขอให้เปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทได้รับโดยที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอม ในกรณีที่บริษัทได้รับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากแหล่งอื่นซึ่งไม่ใช่จากท่านโดยตรง หากบริษัทจะเก็บรวบรวมข้อมูลดังกล่าวบริษัทจะดำเนินการแจ้งให้ท่านทราบภายใน 30 (สามสิบ) วันนับจากวันที่ได้รับข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว เพื่อขอความยินยอมจากท่าน ทั้งนี้ เว้นแต่เป็นกรณีที่กฎหมายยกเว้นให้ไม่ต้องแจ้ง ซึ่งท่านมีสิทธิขอให้บริษัทเปิดเผยแหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้
- สิทธิในการขอรับ และขอให้บริษัทโอนย้าย หรือส่งต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ในกรณีที่บริษัทมีการปรับให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานได้โดยอุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติ และสามารถส่งต่อได้โดยวิธีการอัตโนมัติ
ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตัวท่านจากบริษัทได้ ในกรณีที่บริษัทได้ทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติและสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติรวมทั้งมีสิทธิขอให้บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นเมื่อสามารถทำได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ และมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง เว้นแต่โดยสภาพทางเทคนิคไม่สามารถทำได้ โดยบริษัทจะพิจารณาคำขอของท่านเพื่อดำเนินการที่เหมาะสมต่อไป ภายใน 30 (สามสิบ) วัน นับแต่วันที่ได้รับคำขอดังกล่าว ทั้งนี้ บริษัทขอสงวนสิทธิในการปฏิเสธคำขอใช้สิทธิดังกล่าวของท่าน หากการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลเป็นการปฏิบัติหน้าที่เพื่อประโยชน์สาธารณะหรือเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายของบริษัท หรือการใช้สิทธิอาจละเมิดสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลอื่น
- สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
ท่านมีสิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยบริษัท ตามกฎหมายและในกรณีต่อไปนี้
- การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลนั้นเป็นการเก็บรวบรวมโดยได้รับยกเว้นไม่ต้องขอความยินยอมเนื่องจากเป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทหรือนิติบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล เว้นแต่บริษัทจะพิสูจน์ได้ว่ามีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายที่สำคัญสำหรับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลยิ่งกว่า
- กรณีการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้นเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาดแบบตรง
เมื่อบริษัทได้รับแจ้งความประสงค์ในการใช้สิทธิดังกล่าวจากท่าน บริษัทจะทำการแยกข้อมูลของท่านออกจากข้อมูลอื่นๆ ทันที อย่างไรก็ตาม บริษัทขอสงวนสิทธิในการปฏิเสธคำขอใช้สิทธิดังกล่าวของท่าน ในกรณีที่บริษัทสามารถพิสูจน์ได้ว่า การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้รับยกเว้นไม่ต้องขอความยินยอมเนื่องจากเป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทนั้นมีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายที่สำคัญยิ่งกว่า หรือเป็นไปเพื่อการก่อตั้งสิทธิตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย โดยบริษัทจะพิจารณาคำขอของท่านเพื่อดำเนินการที่เหมาะสมต่อไป ภายใน 30 (สามสิบ) วัน นับแต่วันที่ได้รับคำขอดังกล่าว
- สิทธิในการขอให้บริษัทลบหรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลกลายเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถใช้ระบุตัวตนได้
ท่านสามารถแจ้งให้บริษัทลบหรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และ/หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านกลายเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุถึงตัวตนของท่านได้ ในกรณีดังต่อไปนี้
- เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลไว้ตามวัตถุประสงค์
- เมื่อท่านถอนความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้น และบริษัทไม่มีอำนาจตามกฎหมายที่จะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้น
- เมื่อท่านใช้สิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูล และบริษัทไม่มีเหตุผลที่จะใช้ปฏิเสธคำขอได้ หรือ
- เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลนั้นถูกเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
โดยบริษัทจะพิจารณาคำขอของท่านเพื่อดำเนินการที่เหมาะสมต่อไป ภายใน 30 (สามสิบ) วัน นับแต่วันที่ได้รับคำขอดังกล่าว อย่างไรก็ตาม บริษัทขอสงวนสิทธิในการปฏิเสธคำขอใช้สิทธิดังกล่าวของท่าน หากบริษัทมีความจำเป็นและมีสิทธิตามกฎหมายที่จะปฏิเสธคำขอดังกล่าวได้
- สิทธิขอให้บริษัทระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
ท่านสามารถแจ้งให้บริษัทระงับการใช้ข้อมูลของท่านได้ทันที ในกรณีดังต่อไปนี้
- เมื่อบริษัทอยู่ในระหว่างการตรวจสอบความถูกต้อง ครบถ้วน หรือปรับปรุงข้อมูลส่วนบุคคลนั้นให้เป็นข้อมูลปัจจุบัน และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด ตามคำขอของท่าน
- เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอาจถูกลบ หรือทำลายได้ แต่ท่านแจ้งขอให้ระงับการใช้งานข้อมูลส่วนบุคคลนั้น แทนการลบ หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล
- เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลนั้นหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลนั้นแล้ว แต่ท่านมีความจำเป็นต้องขอให้เก็บรักษาไว้เพื่อใช้ในการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือ
- เมื่อบริษัทอยู่ในระหว่างการพิจารณาการใช้สิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
โดยบริษัทจะพิจารณาคำขอของท่านเพื่อดำเนินการที่เหมาะสมต่อไป ภายใน 30 (สามสิบ) วัน นับแต่วันที่ได้รับคำขอดังกล่าว อย่างไรก็ตาม บริษัทขอสงวนสิทธิในการปฏิเสธคำขอใช้สิทธิดังกล่าวของท่าน หากบริษัทมีความจำเป็นและมีสิทธิตามกฎหมายที่จะปฏิเสธคำขอดังกล่าวได้
- สิทธิในการขอให้บริษัทปรับปรุงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้องเป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
ในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ไว้กับบริษัท หรือที่บริษัทได้เก็บรวบรวมไว้ หากยังอยู่ภายในระยะเวลาจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลตาม “หนังสือแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล” ท่านสามารถแจ้งให้บริษัทดำเนินการแก้ไขปรับปรุงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ทุกเมื่อ โดยบริษัทจะพิจารณาคำขอของท่านเพื่อดำเนินการที่เหมาะสมต่อไป ภายใน 30 (สามสิบ) วัน นับแต่วันที่ได้รับคำขอดังกล่าว
- สิทธิในการร้องเรียนในกรณีที่พบว่ามีการฝ่าฝืนข้อกำหนดตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
หากท่านพบว่ามีการดำเนินการใดๆ ฝ่าฝืนหรือไม่เป็นไปตามข้อกำหนดตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 เกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านสามารถแจ้งการดำเนินการที่ไม่ถูกต้องนั้นมายังบริษัท และ/หรือหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องได้ โดยบริษัทจะพิจารณาคำขอของท่านเพื่อดำเนินการที่เหมาะสมต่อไป ภายใน 30 (สามสิบ) วัน นับแต่วันที่ได้รับคำขอดังกล่าว
ในกรณีที่ท่านประสงค์จะใช้สิทธิใดๆ ดังปรากฏข้างต้น ท่านสามารถติดต่อบริษัทได้ ตามรายละเอียดที่ระบุในหัวข้อ “การติดต่อบริษัท”
- การปรับปรุงข้อมูลส่วนตัว
โดยการเข้าสู่บัญชีของท่านบนแพลตฟอร์ม ท่านสามารถปรับปรุงข้อมูลส่วนตัวของท่านได้ตลอดเวลา หรือหากท่านประสบปัญหาในการปรับปรุงข้อมูลส่วนตัวของท่าน ท่านสามารถบอกกล่าวให้เราทราบผ่านช่องทางติดต่อที่ระบุไว้ข้างใต้นี้
ท่านยอมรับว่าข้อมูลส่วนตัวของท่านที่ได้รับการปรับปรุงแล้วนั้น เราจะดำเนินการส่งให้แก่คู่ค้าทางด้านการขนส่งและ/หรือการชำระเงิน หรือบริษัทในเครือที่เราได้แบ่งปันข้อมูลส่วนตัวของท่าน หากข้อมูลส่วนตัวของท่านยังคงจำเป็นต่อวัตถุประสงค์ที่กล่าวไว้ข้างบน
- การเข้าถึงข้อมูลส่วนตัว
เมื่อท่านสร้างบัญชีกับฟินิกซ์บอกซ์ โดยการเข้าสู่บัญชีของท่านบนแพลตฟอร์ม ท่านอาจเข้าดูรายละเอียดเกี่ยวกับการสั่งซื้อสินค้าของท่าน ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะ รายละเอียดเกี่ยวกับการสั่งซื้อสินค้าที่สมบูรณ์มีการชำระเงินและจัดส่งสินค้าแล้ว หรือที่ยังคงอยู่ระหว่างการดำเนินการชำระเงินและ/หรือการจัดส่ง และท่านยังสามารถจัดการข้อมูลที่อยู่การจัดส่งสินค้า, รายละเอียดเกี่ยวกับการชำระเงิน หรือการรับข่าวสารที่ท่านได้สมัครไว้ได้ ท่านตกลงที่จะจัดการชื่อบัญชี, รหัสผ่าน และรายละเอียดการสั่งสินค้าเป็นความลับ และจะไม่เปิดเผยต่อบุคคลภายนอกที่ไม่ได้รับอนุญาต โดยเราไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดจากการใช้ชื่อบัญชี, รหัสผ่าน และรายละเอียดการสั่งสินค้าในทางที่ผิด เว้นแต่จะได้ระบุไว้ในข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการ
- ความปลอดภัยของข้อมูลส่วนตัว
เพื่อรักษาความความปลอดภัยในการปกป้องข้อมูลที่จัดเก็บซึ่งรวมถึงข้อมูลส่วนตัวของท่าน เรามีแนวปฏิบัติในการจำกัดการเข้าถึงข้อมูลส่วนตัว, จัดให้มีวิธีการทางเทคโนโลยีซึ่งได้มาตรฐานในอุตสาหกรรม เพื่อป้องกันไม่ให้มีการเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่ไม่ได้รับอนุญาต และจัดการทำลายข้อมูลส่วนตัวของท่านเมื่อข้อมูลดังกล่าวไม่จำเป็นสำหรับวัตถุประสงค์ทางกฎหมายและ/หรือเพื่อดำเนินการภายใต้ข้อกำหนดและเงื่อนไขใดๆที่เกี่ยวข้องกับแพลตฟอร์ทและบริการอีกต่อไป
เมื่อท่านกำหนดรหัสผ่าน เราขอแนะนำให้ท่านใช้ตัวเลข, ตัวอักษร หรือสัญลักษณ์ ที่มีความหลากหลายประกอบอยู่ในรหัสผ่านของท่าน และท่านจะรับผิดชอบต่อการกระทำต่างๆ ที่ได้กระทำลงในนาม หรือผ่านทางบัญชีของท่าน รวมถึงผลที่ตามมาใดๆ, การควบคุมข้อมูลส่วนตัว หรือข้อมูลใดๆ ของท่านที่ส่งให้แก่เรา, นิติกรรมใดๆ ที่ทำลงในนามของท่าน ท่านจะแจ้งให้เราทราบและเปลี่ยนรหัสผ่านของท่าน หากหรือหากท่านมีเหตุให้เชื่อได้ว่ารหัสผ่านของท่านถูกเปิดเผยหรือไม่เป็นความลับอีกต่อไป เพื่อความปลอดภัยในบัญชีและข้อมูลใดๆ ของท่านที่บันทึกอยู่ในบัญชีนั้น เราขอแนะนำให้ท่านออกจากระบบบัญชี และปิดบราวเซอร์ที่ท่านใช้เข้าระบบทุกครั้งหากท่านมิได้ใช้คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลเข้าสู่แพลตฟอร์ม ท่านยอมรับและตกลงว่าเรา ไม่ต้องรับผิดชอบต่อการใช้รหัสผ่านในทางที่ผิด เว้นแต่การใช้งานในทางที่ผิดนั้นเป็นผลมาจากการกระทำโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงของเรา หรือหากท่านมีเหตุให้เชื่อว่ามีการละเมิดข้อมูลส่วนตัวของท่านที่มีอยู่ในแพลตฟอร์ม ท่านสามารถบอกกล่าวให้เราทราบผ่านช่องทางติดต่อที่ระบุไว้ข้างใต้นี้
- ผู้เยาว์
กรณีการใช้งานแพลตฟอร์มของบุคคลที่อายุต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์ จะต้องอยู่ภายใต้การกำกับดูแลโดยบิดาหรือมารดาหรือผู้ปกครองทางกฎหมายเท่านั้น
- การเก็บข้อมูล
เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการวิเคราะห์และประเมินซึ่งจะช่วยให้เราเข้าใจความต้องการและความสนใจของท่านมากขึ้น และสามารถมอบประสบการณ์ที่ดีในการใช้แพลตฟอร์มให้มีความรวดเร็ว, ความปลอดภัย และความเหมาะสมกับความสนใจของท่าน รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพในการปกป้องความเป็นส่วนตัวของท่าน ท่านยอมรับว่าเราหรือผู้ให้บริการที่ได้รับอนุญาตจากเราอาจจะใช้วิธีการดังนี้เพื่อเก็บข้อมูลใดๆ ของท่านขณะใช้งานแพลตฟอร์ท
(ก) โปรแกรมคุกกี้ ที่จัดวางไว้บนหน่วยความจำของบราวเซอร์ที่ท่านใช้ หรือบนอุปกรณ์ที่ท่านใช้ขณะเข้าชมแพลตฟอร์ม
(ข) เวปบีคอน รูปภาพกราฟฟิคขนาดเล็กที่อาจรวมอยู่ในแพลตฟอร์ม
(ค) หรือโปรแกรมอื่นๆ ที่คล้ายคลึงกันเพื่อจัดเก็บข้อมูลการใช้งานแพลตฟอร์ม
เมื่อท่านเข้าสู่แพลตฟอร์มของเรา เซิร์ฟเวอร์จะทำการจดจำ และบันทึกข้อมูลที่บราวเซอร์ของท่านส่งเข้ามาโดยอัตโนมัติ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง ที่อยู่ไอพีแอดเดรสของคอมพิวเตอร์ของท่าน, ชนิดของบราวเซอร์ที่ท่านใช้ขณะเข้าสู่แพลตฟอร์ม, เว็ปไซต์ที่ท่านเข้าถึงก่อนที่ท่านจะเข้าสู่แพลตฟอร์ม, หน้าเว็ปเพจที่ท่านเข้าชมในแพลตฟอร์ม รวมถึงแจ่ไม่จำกัดเฉพาะ จำนวนเวลาที่ท่านใช้ในการชมเว็ปไซต์ดังกล่าว, สินค้าหรือข้อมูลที่ท่านค้นหาในแพลตฟอร์ม, วันและเวลาเข้าชม และข้อมูลทางสถิติอื่นๆ
- ข้อมูลขยะ, สปายแวร์ และไวรัสคอมพิวเตอร์
เพื่อป้องกันมิให้ข้อมูลขยะ, สปายแวร์, ไวรัสคอมพิวเตอร์ รวมถึงวัสดุต้องห้ามอื่นใด ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งไม่พึงประสงค์เป็นอย่างยิ่งและมีความเป็นไปได้ในการที่จะก่อให้เกิดความเสียหายแก่แพลตฟอร์มและ/หรือบริการ รวมถึงผู้ใช้อื่นบนแพลตฟอร์ม, ระบบ และอุปกรณ์ใดๆ ท่านตกลงที่จะไม่ส่งข้อความใดๆ หรือกระทำการใดๆ ที่จะเป็นการนำเข้าข้อมูลขยะ, สปายแวร์ หรือไวรัสคอมพิวเตอร์ ผ่านทางแพลตฟอร์ม ท่านจะตั้งค่าการติดต่อสื่อสารตามนโยบายของแพลตฟอร์ม หากท่านต้องการรายงานกรณีที่น่าสงสัยว่าจะมีข้อมูลขยะ, สปายแวร์, ไวรัสคอมพิวเตอร์ รวมถึงวัสดุต้องห้ามอื่นใด ท่านสามารถบอกกล่าวให้เราทราบผ่านช่องทางติดต่อที่ระบุด้านล่างนี้
- การปรับปรุงนโยบายความเป็นส่วนตัว
เราขอสงวนสิทธิในการปรับปรุงนโยบายความเป็นส่วนตัวได้ตลอดเวลา โดยให้ถือว่าการปรับปรุงนโยบายความเป็นส่วนตัวนั้นมีผลทันทีและท่านได้รับทราบแล้วเมื่อมีการประกาศ หรือตีพิมพ์ หรือเผยแพร่นโยบายความเป็นส่วนตัวที่ได้มีการปรับปรุงแล้วนั้นไว้ในแพลตฟอร์ม
- การติดต่อฟินิกซ์บอกซ์
หากท่านมีข้อสงสัย, ความคิดเห็น หรือต้องการความช่วยเหลือ ท่านสามารถติดต่อเราผ่านช่องทาง อีเมล์ [email protected]